Water Hammer

วอเตอร์แฮมเมอร์

Water hammer หรือ Hydraulic shock หรือ แรงกระแทกไฮดรอลิก คือปรากฎการณ์ที่แรงดันกระแทกที่เกิดขึ้นชั่วขณะในท่อเมื่อน้ำเปลี่ยนทิศทางหรืออย่างความเร็ว เช่น เมื่อวาล์วปิดตัวลงทันทีทันได จะเกิดคลื่นแรงดัน (Pressure Surge) ของน้ำซึ่งอัดตัวไม่ได้ ไม่มีที่ไป น้ำเมื่อโดนกระแทกจะเกิดคลื่นของจากแรงเฉื่อยของมัน ทำให้เกิดคลื่นแรงดันกระจายไปมาทุกทิศทางทั่วระบบท่อ แรงจะถูกส่งต่อไปยังผนังท่อ ปั๊ม และวาล์ว คลื่นแรงดันจะกระจายกลับไปกลับมาภายในระบบ เสียง “ดังตุ๊บ” เหมือนค้อนกระแทก

ปรากฏการณ์นี้จะรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อความถี่ของคลื่นชั่วคราว (Transient pulse) ไปกระทบกับความถี่ธรรมชาติ (Natural frequency) ของระบบท่อ หรือเมื่อเกิดคลื่นนิ่ง (Standing wave) ในระบบ ซึ่งอาจสะสมพลังงานจนทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงเกิดขึ้น

สาเหตุหลักของการเกิด Water hammer

  1. การสตาร์ทปั๊ม – มีการไล่อากาศที่อยู่ในระบบท่อ เกิดช่องว่าง (Void) ในระบบท่อกระทันหัน น้ำไหลเข้าแทนที่อากาศกระทันหัน ทำให้เกิดแรงดันในระบบสูงขึ้นอย่างมาก
  2. ไฟฟ้าดับที่ปั๊ม – ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางการไหลกะทันหัน ความดันในระบบจะตุกจนเกิดการแยกตัวของไอน้ำ (Vapor column separation) ความเร็วของของเหลวที่กำลังเคลื่อนที่ก็จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ของเหลวที่อยู่ด้านปลายทางของปั๊มจะพยายามไหลต่อไป ทำให้เกิดสุญญากาศภายในท่อ เกิดแรงกระแทกของน้ำในระบบ
  3. การเปิด–ปิดวาล์วเร็วเกินไป – การปิดวาล์วก่อนคลื่นแรงดันเดินทางกลับมา จะทำให้เกิดแรงดันกระแทกสูง
Water Hammer

วาล์วบางประเภท เช่น

  • วาล์วกันกลับแบบสวิง (Swing Check Valve),
  • วาล์วกันกลับแบบแผ่นเอียง (Tilting Disc Check Valve),
  • วาล์วกันกลับแบบประตูคู่ (Double Door Check Valve)

ล้วนมีแนวโน้มที่จะปิดอย่างรวดเร็วโดยธรรมชาติของการออกแบบ ซึ่งทำให้ระบบท่อที่ใช้วาล์วประเภทนี้เสี่ยงต่อปัญหาแรงกระแทกของน้ำมากขึ้น

4. อากาศในท่อหรือน้ำขยายตัว/หดตัวจากอุณหภูมิ

Water Hammer

5. การเลือกใช้อุปกรณ์ควบคุม Surge ไม่ถูกต้อง

6. อุปกรณ์ป้องกันที่ออกแบบหรือเลือกใช้งานไม่ถูกต้อง – เช่น Relief valve ที่ใหญ่เกินไป

7. ในระบบท่อไอน้ำ เมื่อความดันต่ำไอน้ำในระบบลดลงต่ำกว่าความดันไออิ่มตัว (Saturated pressure) ไอน้ำจะเริ่มควบแน่น เป็นหยดน้ำคอนเดนเซท ใหลรวมไปกับไอน้ำ ความดันไอน้ำจะกดดันจนหยดน้ำแตก กระจายออกด้วยความเร็วสูง เกิดการกระแทกกับผิวท่อ เกิดเสียงดังตุ๊บตับ แรงกระแทกของไอน้ำเกิดขึ้นเมื่อไอน้ำบางส่วนควบแน่นกลายเป็นน้ำในบางช่วงของท่อ จากนั้นไอน้ำที่กำลังไหลจะพัดพาน้ำเหล่านี้ให้รวมตัวกันเป็น “ก้อนน้ำ” (Slug) แล้วกระแทกด้วยความเร็วสูงเข้าไปยังข้อต่อหรือส่วนโค้งของท่อ ทำให้เกิดเสียงกระแทกดังคล้ายค้อนตอก และสร้างแรงเค้นที่รุนแรงต่อท่อ

Water Hammer

ผลกระทบของแรงกระแทกของน้ำ

น้ำเป็นของเหลวไม่สามารถอัดตัวได้ (Incompressible) เมื่อของเหลวกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว หากการเคลื่อนที่นั้นหยุดลงอย่างรวดเร็ว มันสามารถสร้างแรงกระทำได้อย่างมหาศาล   

    ถ้าการไหลของของเหลวหยุดลงภายในเวลาไม่ถึง 0.5 วินาที (ซึ่งเป็นเวลาปิดโดยประมาณของวาล์วทั่วไป) อาจทำให้เกิดแรงดันพุ่งสูงขึ้นมากกว่าแรงดันทำงานปกติของระบบท่อได้สูงถึง 100 psi   

Water Hammer

ผลกระทบจาก Water hammer

  • ทำให้ท่อแตกหรือรั่ว
  • ตัวยึดระบบท่อหลวม หรือเสียหาย
  • วาล์วและข้อต่อเสียหาย
  • อายุการใช้งานระบบลดลง
  • ปั๊มหอยโข่ง (centrifugal pump) มักเสียหายเมื่อไฟฟ้าดับ
  • เพิ่มค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงและหยุดการทำงานของระบบ

วิธีการแก้ไข/ป้องกัน

  • วาล์ว: ใช้วาล์วปิดช้า (Slow-closing valves) เพื่อควบคุมแรงดันเมื่อเกิด Down surge
  • Pressure relief valve: ใช้ปล่อยแรงดันส่วนเกินออกชั่วคราว
  • Air & vacuum relief valve: ป้องกันแรงดันต่ำหรือสูญญากาศในท่อ โดยให้มีอากาศเข้าออกได้พอดี
  • การสตาร์ทปั๊มแบบช้าๆ: เพิ่มการไหลทีละน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงแรงดันกระแทก
  • Surge tank: ถังบรรเทาแรงดันในท่อ โดยเก็บน้ำส่วนเกินหรือลดแรงดัน

รูปถังถ่ายแรงดัน

Water Hammer

รูประบบลด Water hammer

Water Hammer

Air chamber: ใช้กันในบ้าน เช่น ติดตั้งหลังอ่างล้างหน้า–อ่างอาบน้ำ อากาศในห้องช่วยดูดซับแรงกระแทก

สัญญาณเตือนของแรงกระแทกของน้ำ

นอกจากเสียงดังแล้ว ยังมีสัญญาณอื่นที่ควรระวัง

  • ท่อสั่นหรือสั่นสะเทือนขณะเปิด-ปิดน้ำ
  • ก๊อกน้ำรั่วซึมหรือหยด
  • อุปกรณ์ เช่น ปั๊ม หรือวาล์ว เสียหาย
  • แรงดันน้ำผันผวนผิดปกติ

การหลีกเลี่ยงแรงกระแทกของน้ำ

1. ออกแบบระบบให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น

    ก่อนที่จะเริ่มการสร้างระบบท่อใดๆ จำเป็นต้องร่วมมือกับผู้ออกแบบระบบและผู้ขายอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้

    สำหรับระบบที่มีอยู่แล้ว

    ควรพิจารณาลักษณะการทำงานของระบบท่อที่มีอยู่ เช่น

  • ลดความเร็วของของเหลวในท่อ


โดยทั่วไป ตารางการเลือกขนาดท่อสำหรับบางแอปพลิเคชันแนะนำว่า ความเร็วของของเหลวในกระบวนการไม่ควรเกิน 4.9 ฟุตต่อวินาที
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจขัดแย้งกับการออกแบบระบบที่ต้องใช้การทำความสะอาดแบบ CIP (Clean-In-Place) ซึ่งจำเป็นต้องมีการไหลแบบปั่นป่วน (Turbulent Flow) ที่มีความเร็วมากกว่า 5 ฟุตต่อวินาที

    วิธีการเพิ่มเติมในการลดความเร็วของของเหลวในท่อ และลดโอกาสเกิดแรงกระแทกของน้ำ:

  • ใช้ท่อแขนง (Branch Pipe) ที่มีความยาวสั้นลง
  • ใช้ท่อตรง (Straight Pipe) ที่มีความยาวสั้นลง
  • เพิ่มข้อศอก (Elbows) และห่วงขยายตัว (Expansion Loops) ในระบบท่อของกระบวนการผลิต
    • แรงกระแทกของน้ำสัมพันธ์กับความเร็วของเสียงในของเหลว
    • ข้อศอกสามารถช่วยลดผลกระทบของคลื่นแรงดันได้
  • จัดวางท่อหลัก (Primary Pipes) ให้เป็นวงลูป เพื่อส่งของเหลวไปยังท่อแขนงขนาดเล็กและสั้น
    • ในระบบท่อแบบวงลูป จะสามารถจ่ายของเหลวให้ท่อแขนงด้วยความเร็วที่ต่ำจากทั้งสองด้านของวงลูปได้

2. การโปรแกรมระบบอย่างเหมาะสม (Proper System Programming)

    การเปลี่ยนแปลงของแรงดัน ซึ่งอาจนำไปสู่แรงกระแทกของน้ำ จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ของเหลวถูกเร่งหรือชะลอความเร็วจากการเปลี่ยนสถานะของปั๊ม หรือการเปลี่ยนตำแหน่งของวาล์ว

    โดยปกติ การเปลี่ยนแรงดันเหล่านี้จะมีขนาดเล็กและเกิดอย่างช้าๆ จนไม่สามารถตรวจจับแรงกระแทกได้ แต่ในโรงงานที่มีการลำเลียงผลิตภัณฑ์ด้วยความเร็วสูงและท่อที่ยาว การเปิดหรือปิดปั๊มอาจสร้างแรงกระแทกที่รุนแรง

    แนวทางป้องกัน:


    สามารถขจัดการเปลี่ยนแรงดันที่รุนแรงได้ด้วยการเขียนโปรแกรมควบคุมระบบอย่างเหมาะสม เช่น:

  • กำหนดให้ปั๊มเพิ่มหรือลดรอบการทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป
  • กระบวนการนี้สามารถยืดระยะเวลาของการเปลี่ยนแรงดันให้เกิดขึ้นช้าๆ ภายในหลายวินาที หรือแม้กระทั่งมากกว่าหนึ่งนาที

3. การฝึกอบรมระบบอย่างถูกต้อง (Proper System Training)

    การฝึกอบรมพนักงานในโรงงานกระบวนการผลิตอย่างเหมาะสมมีบทบาทสำคัญในการลดหรือขจัดแรงกระแทกของน้ำ

    การฝึกอบรมที่เพียงพอจะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจความสำคัญของการเปิดและปิดวาล์ว (ทั้งแบบแมนนวลและแบบอัตโนมัติ) อย่างถูกต้อง ซึ่งช่วยลดผลกระทบของแรงกระแทกของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การจัดตั้งแนวทางควบคุมระบบท่อที่ดี เช่น:

  • ขั้นตอนการเริ่มต้นระบบ (Startup)
  • ขั้นตอนการปิดระบบ (Shutdown)

    ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และปลอดภัย

Water Hammer