วิธีเพิ่มประสิทธิภาพของปั๊มหอยโข่ง
การเพิ่มประสิทธิภาพของปั๊มหอยโข่งนั้นขึ้นอยู่กับทั้งการออกแบบ การติดตั้ง และการใช้งาน (เดินเคริ่งและบำรุงรักษา) อย่างเหมาะสม ต่อไปนี้คือแนวทางที่ถูกต้อง
1. เดินเครื่องใกล้จุดประสิทธิภาพสูงสุด (Best Efficiency Point – BEP)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปั๊มทำงานใกล้กับ BEP ซึ่งเป็นจุดที่ปั๊มมีประสิทธิภาพสูงสุด
- หลีกเลี่ยงการใช้งานที่อยู่ทางซ้ายเกินไป (อัตราการไหลต่ำ) หรือขวาเกินไป (อัตราการไหลสูง) ของกราฟประสิทธิภาพปั๊ม

2. ลดการสูญเสียจากแรงเสียดทาน (Friction, Resistant)
- ใช้ท่อที่เรียบ มีขนาดเหมาะสม และวางแนวตรงให้มากที่สุด
- ลดจำนวนของข้อโค้ง วาล์ว และข้อต่อ
- ทำความสะอาดท่อเป็นประจำ เพื่อป้องกันตะกรันหรือการอุดตัน
3ใช้ใบพัดที่มีขนาดและชนิดเหมาะสม
- ปรับขนาดใบพัดให้มีขนาด (Diameter) พอดีกับการทำงานที่ต้องการ แทนการควบคุมการไหล (Throttling) ด้วยการปิดวาล์ว
- ใช้ใบพัดที่มีประสิทธิภาพสูง หรืออัปเกรดเป็นใบพัดชนิดใบมีด (Vane impeller) หากเหมาะสม
4. ควบคุมความเร็วให้ถูกต้อง
- ใช้ตัวขับความเร็วแบบปรับได้ (VFD– Variable frequency drive) เพื่อให้ความเร็วของปั๊มสอดคล้องกับความต้องการของระบ
- ลดความเร็วเมื่อใช้งานโหลดบางส่วน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมาก
5. ลดการรั่วและการไหลเวียนกลับภายใน
- ตรวจสอบและดูแลซีลกันรั่วให้อยู่ในสภาพดี
- ตรวจสอบการรั่วภายในจากแหวนสึกหรอ (Wear rings) และซีลแหวน (Seal rings)
6. ลดการเกิดโพรงอากาศ (Cavitation)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า NPSHA (แรงดันสุทธิฝั่งดูดที่มีอยู่) มากกว่า NPSHR (แรงดันที่ปั๊มต้องการ)
- หลีกเลี่ยงการดูดน้ำจากระดับสูงเกินไป ใช้ท่อดูดที่เหมาะสม และให้ด้านดูดมีของเหลวอยู่ตลอด
7. ปรับแต่งระบบการสูบให้เหมาะสม
- ใช้ปั๊มร่วมกันแบบขนานหรืออนุกรมเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนแปลง แทนการใช้ปั๊มตัวเดียวที่ไม่มีประสิทธิภาพ
- ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติ เพื่อปิดหรือปรับการทำงานของปั๊มเมื่อไม่จำเป็นต้องใช้
8. บำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะๆ
- ตรวจสอบการสึกหรอของใบพัด ลูกปืน และซีล
- เปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอทันทีเพื่อรักษาประสิทธิภาพ
- หล่อลื่นลูกปืนอย่างเหมาะสมและเป็นประจำ
9. อัปเกรดเป็นปั๊มที่ประหยัดพลังงาน
- เปลี่ยนปั๊มรุ่นเก่าหรือปั๊มที่มีขนาดใหญ่เกินความจำเป็นด้วยรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง
- เลือกปั๊มที่มีประสิทธิภาพทางด้านไฮดรอลิกสูง (High hydraulic efficiency)
10. ลดการสูญเสียจากการควบคุมการไหล (Throttling Losses)
- หลีกเลี่ยงการใช้วาล์วปิดควบคุมการไหลมากเกินไป
- ใช้ VFD – Variable frequency drive หรือเลือกปั๊มที่เหมาะกับงานแทน
11. ออกแบบท่อดูดให้เหมาะสม ให้ระยะยก (Suction lift) น้อยที่สุด
1. ให้ท่อดูดสั้นที่สุด มีข้องอ ตัวกรอง และวาล์วน้อยที่สุด มีแรงเสียดทานต่ำ
2. ให้เส้นผ่าศูนย์กลางของท่อดูดต้องมีขนาดเท่ากับหรือโตกว่าทางเข้าปั๊ม ไม่ที่ให้อากาศค้างอยู่ได้ ทางเข้าปั๊มมีการใหลเป็นสตรีมไลน์ (Stream line) โฟลวราบเรียบ (Laminar flow)
12. เลือกมอเตอร์ หรือตัวขับที่มีประสิทธิภาพสูง ขนาดเรทติ้งพอดึกับปั๊ม
ตรวจสอบและวิเคราะห์การทำงาน
- ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบสภาพการทำงาน และประสิทธิภาพของปั๊ม เช่น มิเตอร์วัดการไหล, เซ็นเซอร์วัดแรงดัน, มีเตอร์วัดไวเบรชั่น มีเตอร์วัดเสียงดัง และมิเตอร์วัดพลังงาน
- ตรวจสอบการทำงานของปั๊มเป็นประจำเพื่อค้นหาความไม่มีประสิทธิภาพ และเสาะแสวงหาโอกาสในการปรับปรุง
- หากวิเคราะห์แล้วพบปัญหา ต้องรีบแก้ไขทันที ปล่อยใว้จะเกิดปัญหารุนแรงขึ้น
